ท่องเที่ยวกับภาพยนตร์ “Time Line”

เบาๆจากสถานการณ์บ้านเมือง  คือ ซักช่วง 2 ปีก่อนผมเคยร่วมกับนักศึกษาลองเขียนวิจัยเรื่่องภาพยนตร์กับการท่องเที่ยว (Film-induced Tourism) ด้วยความสนุกสนานร่วมกัน    เลยนึกถึงปีนี้เป็นอีก 1 ปีที่มีหนังดีๆ 1 เรื่อง คือ “Time Line จดหมาย-ความทรงจำ” ซึ่งเปิดตัวในช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก เนื้อหาเรื่องความรักจากคนสมัยก่อนที่เขียนจดหมายเป็นการสื่อรักแต่ปัจจุบันนั้นเราใช้ time line ในการเขียนโต้ตอบและติดต่อสื่อสารกันทำให้เกิดการดำเนินตัวละครในเรื่อง

เรามาลองดูสิว่าละครเรื่องนี้น่าจะเกิดผลอะไรต่อการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง ????

<< ในฉากที่นางเอกได้ทุนไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เราได้เห็นภาพความสวยงามที่ญี่ปุ่น เช่น นางเอกได้ไปเที่ยวในช่วง Chichibu night festival หรือจากรูปถ่ายทะเลสะท้อนแสงยามค่ำในที่นางเอกและพระเอกชอบมากตอนเดินไปพอในงานนิทรรศการรูปที่กรุงเทพ ทำให้ทั้งคู่ต้องเดินทางมาเที่ยวที่อ่าว Yobuko จังหวัด Sagaแต่เป็นช่วงต่างเวลากัน  บรรยากาศที่สวยงามของเทศกาลและสถานที่เที่ยวอาจทำให้คนไทยหลายคนอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นมากขึ้นตามลอยละคร time line  ดังเคยเกิดในเรื่อง “กวนมึนโฮ” มารอบหนึ่งที่จุดกระแสคนไทยไปเกาหลี (outbound tourism) หรือจะละครเรื่อง Lost in Thailand ที่ทำให้คนจีนบุก จ.เชียงใหม่ มากมายในช่วงต้นปี 2556 (inbound tourism)  ฯลฯ

  (ไม่นับประเด็นเนื่องจากการผ่อนผันเรื่องของ Visa, และการประชาสัมพันธ์เชิงรุกของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชินโสะ อาเบะ ทั้งนี้ทำให้ปีที่แล้วมียอดคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นมากขึ้นนะครับ)

ในประเด็นของการท่องเที่ยวภายในประเทศ (Domestic Tourism)

<< เกาะสีชัง ในฉากที่พระเอกและนางเอกไปเที่ยวและปั่นจักรยานด้วยกัน อาจจะทำให้คนที่ไม่เคยอยากไปก็อยากไปสัมผัสซักครั้ง ผมเองก็ยังไม่เคยไปครับเห็นฉากแล้วชอบมาก  

<< เข้าใจว่าฉากไร่ที่บ้านของพระเอก ส่วนหนึ่งถ่ายทำจากสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่ บรรยายกาศสวยงามครับ

<< ในส่วนของการคมนาคมขนส่งเพื่อการท่องเที่ยว การใช้รถจักรยานอาจจะมีความนิยมในการขับท่องเที่ยวมากขึ้น จากละครที่ทั้ง 2 มักใช้จักรยานในการเดินทางมาเรียนและท่องเที่ยวด้วยกัน

ผมเชื่อว่าหนังดีๆก็สร้างการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจได้ และยังสร้างสิ่งดีๆวิธีคิดดีๆได้-----------