Page Visits: 1512
comment: 3

ก้าวย่าง ทางเดิน ลืมเลือนคืนวัน ดั้นด้นไป: ฤดูกาล ๒ - ๑๗ -วิกฤตในวิกฤต

วิกฤตซ้ำซ้อน เพราะมัวปัดแข้งปัดขา แก้ปัญหาบนพื้นฐานนักการเมืองได้ประโยชน์ ประเทศชาติ ประชาชนจะเป็นอย่างไรก็ช่าง

ผมยังไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดีครับ อีกอย่างช่วงนี้ห่างหายจากวงแชร์ไปพอสมควรแวะเวียนมาบ้างเป็นคราวๆ ไม่ได้ตามติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเหมือนหลายๆ ท่าน

ช่วงนี้หลายท่านขยันเข็นบันทึกออกมาเยอะเหลือเกิน อะไรๆ ก็หายใจออกมาเป็นบันทึกในแชร์ไปซะหมด ช่วงนี้คงเป็นอาการเดียวกับคุณพี่เมตตาที่ คิด เข็น ใส่ไฟเท่าไหร่ก็เข็นบันทึกออกมาไม่ได้ซะที แต่ถึงจะบ่นๆ อย่างไร คุณพี่ท่านก็เข็นออกมาได้ทุกที

ช่วงสักหกโมงครึ่งผมขี่รถผ่านไปทางกาญจนวนิช ออกทางประตูวัดโคกนาว เลี้ยวซ้ายได้นิดเดียวก็เห็นน้ำพุอยู่ข้างทาง น้ำส่วนหนึ่งไหลเอ่อมาที่ไหล่ทาง ผมก็ไม่รู้ว่าน้ำพุที่เห็นเกิดขึ้นมานานแล้วหรือยัง แต่ตรงแยกไฟแดงกาญจนวนิชตัดกับธรรมนูญวิถีมีเจ้าหน้าที่ ตร. จราจร ยืนจดๆ จ้องๆ อยู่ตรงตู้ควบคุมสัญญาณไฟ ๒ นาย ถัดไปก็มีช่างกลุ่มหนึ่งกำลังทำแผงกั้นตรงขอบทาง เนื่องด้วยถนนกาญจนวนิชฝั่งขาออก ตั้งแต่ประตูวัดโคกนาวไปตลอดริมรั้วมหาวิทยาลัย จรดถนนปุณกัณณฑ์ จะเป็นคูที่ค่อนข้างลึก กว้าง ขอบทางชันมาก หากเกิดอุบัติเหตุรถตกลงไปคงเป็นภาพที่ไม่น่าดู

ตรงแนวถนนริมรั้วมหาวิทยาลัยแนวนั้น นอกเหนือจากเป็นคูน้ำแล้ว ยังเป็นที่วางของท่อประปาขนาดใหญ่ ๒ ท่ออีกด้วย (ที่โผล่ขึ้นมาให้เห็น) ตรงช่วงข้อต่อของท่อประปาที่ใช้น๊อตร้อยยึดต่อกัน ช่วงใกล้ๆ กับประตูวัดโคกนาวนั้น มีน้ำพุ่งออกมารอบๆ รอยต่อตรงนั้น เหมือนน้ำพุ ยังไงยังงั้น

ก็ไม่ทราบว่าใครแจ้งทางประปาให้มาดำเนินการแก้ไขแล้วหรือยัง

ผมตัดสินใจโทรศัพท์ไปที่หมายเลข ๐๗๔๔๕๑๐๙๙ หมายเลขของศูนย์วิทยุฯ บนชั้น ๑๑ อาคารโรงพยาบาล ช่วง ๖ โมงถึง ๑ ทุ่มโดยประมาณเป็นช่วงของการเปิดให้เพื่อนนักวิทยุฯ ที่รับสัญญาณของศูนย์ฯ ได้ เข้ามาทดสอบสัญญาณกับทางศูนย์ฯ (เปรียบเหมือนการทดสอบ ว. ๑๖ ของข่ายราชการ) หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า check net

เปรียบเสมือนเป็นการแจ้งกลายๆ ว่ามีใคร stand by อยู๋บ้าง

พนักงานงานวิทยุของศูนย์ก็ใจดีเหลือหลาย พักการ check net มารับโทรศัพท์ (ผมไม่พกพาวิทยุไป)

ผมแจ้งไปตามที่เห็น พนักงานวิทยุที่ศูนย์ก็รับว่าจะประสานไปทางประปาให้มาดำเนินการแก้ไขให้

๒ ทุ่มนิดๆ ผมผ่านไปทางนั้นอีกที น้ำพุก็ยังพุ่งอยู่เป็นปกติ

จากข้อมูลทราบว่าทางปะปาส่งเจ้าหน้าที่มีดูแลซแก้ไข ตอนประมาณ เกือบๆ สามทุ่ม น่าจะช่วงที่ฝนตกน่ะครับ

หลายๆ ท่านคงจำได้ว่าช่วงปี ๒๕๔๓ ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่เมืองหาดใหญ่นั้น ช่วงนั้นฝนตกติดต่อกันหลายวัน ปริมาณน้ำเริ่มปริ่มๆ เต็มคูน้ำแล้วโดยเฉพาะตรงแยกโคกนาว ที่เป็นพื้นที่ต่ำ น้ำที่ไหลลงมาจากแถบเขาคอหงส์ส่วนหนึ่งจะไหลลงมารวมกันบริเวณนี้ ก่อนจะล้นข้ามไปอีกฝั่งถนน แล้วไหลลงไปตามแนวถนนธรรมนูญวิถีหรือถนนสายวัดโคกนาว ตามที่เราๆ ท่านๆ คุ้นชินกันมากกว่า

ก่อนน้ำท่วม

รถบรรทุกก๊าซขนาดเล็ก จำได้ว่าเป็นรถสีขาวๆ ด้านหลังบรรทุกถังทรงกระบอกขนาดใหญ่สีขาว เกิดอุบัติเหตุ ขับขี่ยังไงไม่ทราบ ไปชนเอาท่อประปาบริเวณนั้นแตก น่าจะชนตอนกลางคืนหรือเช้าๆ

บังเอิญว่าท่อประปาที่แตกนั้นเป็นท่อที่ส่งน้ำให้กับโรงพยาบาลสงขลานครินทร์เสียด้วย

หลังจากนั้นไม่นานน้ำก็ไหลเข้าท่วมเมืองหาดใหญ่

ช่วงนี้ ๒ ประสานที่ทำให้เกิดภาวะของการเริ่มขาดแคลนและกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภคกันบ้างแล้ว นั่นก็คือ โรคกลัวน้ำท่วม และน้ำท่วมโรงานผลิต หลายๆ คนคงเตรียมตุนเครื่องอุปโภคบริโภคกันบ้างแล้ว

ผมได้อ่านอนุทินของท่าน wwibul ประเด็นเรื่องขวดน้ำพลาสติก หรือน้ำขวดที่หลายๆ คนเริ่มกักตุน ซื้อหามาตุนไว้บ้างแล้ว และอาจจะมีแนวโน้มไปในทางขาดแคลน ที่ขาดแคลนคงไม่ใช่ขาดแคลนน้ำ เพราะในพื้นที่ภาคใต้เอง หรือบริเวณใกล้แถบเมืองหาดใหญ่ก็มีอยู่หลายโรงงาน

สิ่งที่ขาดแคลนก็คือขวดสำหรับบรรจุน้ำนั่นเอง

โรงงานปิโตรเคมีต้อนตอของขวดพลาสติกน่าจะอยู่แถวๆ ภาคตะวันออก ระยอง ตราด จันทบุรีแถบนั้น ณ ปัจจุบันน้ำยังไม่ท่วม แต่ผมไม่ทราบว่าโรงงานแปรรูปพลาสติกหรือผลิตขวดน้ำ อยู่บริเวณใดบ้าง หรือแหล่งใหญ่อยู่บริเวณใด อยู๋บริเวณพื้นที่น้ำท่วมหรือไม่

น้ำดื่มบรรจุขวดที่เราๆ ท่านๆ เห็น/ ซื้อมาดื่ม มาบริโภคกันนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นของ "ขาใหญ่" ที่จำหน่ายขายทั่วประเทศ จึงมีให้ซื้อหาตามห้างสรรพสินค้า ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ หรือพบเห็นได้บ่อย ได้ง่าย แต่น้ำดื่มบรรจุขวดท้องถิ่น ซึ่งมีหลายๆ ขาเหมือนกัน จะซื้อ - ขาย กันอยู่ในวงแคบๆ หรือมักจะจำหน่ายน้ำบรรจุขวดใหญ่ซะมากกว่า

ถ้าแหล่งผลิตขวดไม่จมน้ำไป(เกือบ)หมด น้ำบรรจุขวดก็น่าจะยังหาได้จากแหล่งผลิตขาเล็กๆ เหล่านี้ เพียงแต่จะเข้าถึงยากกว่าของบรรดาขาใหญ่ทั้งหลาย

แต่ถ้าจะช่วยกันลดการใช้น้ำบรรจุขวดในช่วงนี้เพื่อให้มี stock สำหรับการส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน

ช่วงน้ำท่วมหาดใหญ่ที่ผ่านมาในส่วนของมหาวิทยาลัยก็มีการบรรจุน้ำดื่มใส่ขวดส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่หาดใหญ่อยู่หลายแห่งเช่นกัน เช่น คณะวิทยาศาสตร์ ที่มีเครื่องกรองน้ำอยู่

สำหรับภาคใต้อย่างหาดใหญ่ สงขลาหากเกิดภาวะขาดแคลนของกินของใช้ เนื่องจากน้ำท่วมแหล่งผลิตก็อาจจะมีทางเลือกมากกว่าที่อื่นๆ นั่นก็คือเรามีประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน น่าจะนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านได้ไม่ยากนัก

แต่ก่อนที่จะถึงจุดที่ต้องสั่งนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน น้ำดื่มบรรจุขวดที่ความต้องการในสถานการณ์ปัจจุบันมีจำนวนมาก เห็นควรแล้วหรือไม่ที่ "เรา" จะลงมือหยิบยื่น หรือเติมส่วนที่ขาดนี้ให้กับสังคม

เรามีน้ำดื่ม อ.ก. น้ดื่ม PSU น้ำดื่มคณะทรัพย์ เครื่องกรองน้ำอีกหลายหน่วยงาน เป็นไปได้ไหมที่เราจะนำออกมาใช้งาน เพื่อคืนสู่สังคม

ทำไมเด็กๆ หรือใครหลายๆ คนไม่ใช้บริการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญที่มีอยู่ตามจุดต่างๆในย่านชุมชน จะด้วยเหตุผลว่า "ไม่แน่ใจเรื่องความสะอาด" หรืออะไรก็แล้วแต่

ถ้าเป็นน้ำดื่มที่กรอง (ผลิต) จากมหาวิทยาลัยล่ะ จะทำคุณภาพ ชื่อเสียงเหมือนน้ำดื่มยี่ห้อขาใหญ่ทั้งหลายได้ไหม

สถานการณ์เมืองหลวงในขณะนี้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมในหลายพื้นที่แล้ว และยังไม่รู้ว่าจะท่วมนานแค่ไหน กี่วัน กี่สัปดาห์ หรือจะกี่เดือน ถึงเวลาแล้วหรือยังที่คนไทยจะร่วมมือร่วมใจกันสู้ภัยร่วมกัน เลิกปัดแข้งปัดขา เลิกเอาหน้าว่าเป็นผลงานตน คิดถึงประโยชน์เพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง

เราเอง

ระหว่างคิดว่าจะเขียนๆ อะไร ผมก็ลองเล่นไปเรื่อยๆ ได้รูปเอามาแถมๆ ให้บันทึกมีสีสันนิดหน่อยครับ วันเวลาในรูปต้องบวกไปอีก ๗ ชั่วโมงนะครับ