การแต่งกายประดับ...เครื่องราชอิสริยาภรณ์ (ตอนที่ 2)

เมื่อคราวที่แล้วลงท้ายไว้ เรื่อง...เครื่องราชฯ  กับ   เหรียญราชอิสริยาภรณ์  ต่างกัน จึงขอทำความเข้าใจดังนี้

เครื่องราชฯชั้นต่ำกว่าสายสะพาย  ได้แก่  บ.ม. บ.ช.  จ.ม. จ.ช. ต.ม. ต.ช.  ท.ม. ท.ช.

เครื่องราชฯชั้นสายสะพาย   ได้แก่   ป.ม.  ป.ช.   ม.ว.ม.  ม.ป.ช.

สำหรับคุณสมบัติท่านสามารถทำความเข้าใจ คลิกที่นี่ ชั้นเครื่องราชฯจะมีสายสะพาย+ดวงดารา 2 ดวง ติดใต้กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายชั้นสูงสุดอยู่บนชั้นรองอยู่ล่างลักษณะเฉียงไปซ้าย

เหรียญราชอิสริยาภรณ์ คือเหรียญที่พระราชทานแก่ผู้ที่กระทำความดีความชอบ อันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ศาสนา ประชาชน ได้แก่

- เหรียญบำเหน็จความกล้าหาญ ได้แก่ เหรียญชัยสมรภูมิ

-  เหรียญบำเหน็จความชอบในราชการแผ่นดิน ได้แก่ เหรียยดุษฎีมาลา เหรียญจักรมาลา

- เหรียญบำเหน็จความชอบในองค์พระมหากษัตริย์ ได้แก่ เหรียญรัตนาภรณ์และเหรียญราชรุจิ (สำหรับราชวงศ์)

-  เหรียญสำหรับพระราชทานเป็นที่ระลึกในโอกาสสำคัญ ๆ เช่น เหรียญฉลอง 25 พุทธศตวรรษ  รัชดาภิเษก  ที่ระลึกพระราชพิธีสถาปนา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี  สมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระชนมายุ 50 พรรษา เป็นต้น

การประดับเหรียญเหล่านี้จะใช้ประดับที่อกด้านซ้ายเหนือกระเป๋าเสื้อ (ใต้ปีกร่มสำหรับข้าราชการทหาร ตำรวจ) ลักษณะเป็นแผงใช้ประดับทั้งที่เต็มยศ ครึ่งยศ ราคาประมาณแผงละ 3,000 - 3,500 บาท หาซื้อได้ตามที่จำหน่ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์  ร้านศึกษาภัณฑ์ (กทม.)

สำหรับผู้ที่มีอายุราชการ 25 ปีขึ้นไปจะมีเหรียญที่สำคัญ คือ เหรียญจักรพรรดิมาลา ก็สามารถติดได้เลยค่ะ หากไม่มีเหรียญที่กล่าวข้างต้นเหรียญนี้ถือเป็นเหรียญที่สำคัญยิ่งแล้ว ท่านอย่านำไปให้ใครเสียล่ะ ถือเป็นความดีความชอบที่ท่านทำงานราชการประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี ไม่ด่างพร้อยตลอดเวลาที่รับราชการมา

ท่านผู้บริหารควรหาซื้อไว้นะคะ เมื่อมีงานพระราชพิธีที่สำคัญ ๆ จะต้องแต่งตัวเต็มยศสวมสายสะพายจะดูดีถูกต้อง สวยงามหรูหรามากค่ะ  แต่สิ่งที่ดิฉันคิดไม่แน่นะคะคาดว่าน่าจะมีเหรียญเนื่องในโอกาสพระเจ้าอยู่หัวครองราชย์ครบ 60 ปี หรือพระชนมายุ 80 พรรษาออกมาด้วยก็ได้  โปรดติดตามตอนต่อไปเพราะเรื่องนี้หากให้พูดยาวมากค่ะ