ความเห็น: 3
Love cup (2)- อย่าให้ถ้วยแห่งรักเหือดแห้ง [C]
ถ้าไม่มีความสนใจเชิงบวก ความรักในถ้วยก็จะค่อยๆ ระเหยหายไป ถ้าจะให้ถ้วยแห่งความรักเต็มจนปริ่มขอบก็ต้องหมั่นเติมมันอยู่เสมอ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้แน่ใจว่าถ้วยแห่งความรักมันเต็มอยู่เสมอนั้นก็ง่ายมาก ก็คือ อย่าละเลย อย่าตั้งใจทำให้ถ้วยเหือดแห้ง และอย่าทำให้ถ้วยแตกร้าว ไม่ว่าจะโดยวิธีใด!
ถึงแม้ว่าการทำให้ถ้วยแห่งความรักเหือดแห้งจะเกิดขึ้นได้ในทุกวัยของชีวิต แต่ประชากรที่อยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกทำให้ถ้วยแห่งรักแห้งได้มากที่สุดคือ เด็กที่ยังต้องพึ่งพาผู้ใหญ่ เพราะว่าพวกเขายังไม่สามารถเลือกสภาพแวดล้อมด้วยตัวเองได้ แต่ระวังให้ดี วิธีการทำให้ถ้วยรักแห้งเหือดนั้นก็สามารถทำลายความสัมพันธ์ในผู้ใหญ่ได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างสามี-ภรรยา ระหว่างลูกที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วกับบิดามารดา ระหว่างเพื่อน หรือ ระหว่างเพื่อนร่วมงาน ถ้าคุณพบว่าคุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถ้วยแห่งรักของคุณกำลังจะถูกทำให้เหือดแห้ง ต้องทำบางสิ่งบางอย่างทันที การทำให้ถ้วยแห่งรักเหือดแห้งด้วยการทำร้ายทางจิตใจจะต้องหยุดลง
อย่าละเลยถ้วยแห่งรัก
บางครั้งถ้วยแห่งรักนั้นแห้งเหือดไม่ได้เกิดจากการตั้งใจ แต่เป็นเพราะว่าเราละเลยมากกว่า คือ ไม่แคร์มากพอที่จะเติมมัน ลักษณะ 10 ประการของความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งหรือเหนียวแน่นภายในครอบครัว (ที่ได้มาจากข้อสรุปของงานวิจัยหลายชิ้น) โดยเรียงลำดับ มีดังนี้
1. พันธสัญญาร่วมกัน
2. การแสดงความชื่นชมหรือการเสริมแรง
3. การใช้เวลาด้วยกัน
4. การสื่อสาร
5. มีศรัทธาร่วม
6. การเล่นและเสียงหัวเราะ
7. มีความสนใจและเป้าหมายร่วมกัน
8. ความยืดหยุ่นในบทบาทหน้าที่ในครอบครัว
9. การรับใช้ผู้อื่น
10. ความเต็มใจที่จะแก้ปัญหา
เรื่องเล่าของจอยเป็นคล้ายๆ อย่างนี้ “พ่อแม่ของฉันไม่เคยอยู่บ้านเลย แล้วในที่สุดพ่อก็หนีไปกับผู้หญิงอื่นและฉันก็ไม่เคยได้ข่าวพ่ออีกเลย แม่ฉันก็เชื่อว่า ถ้าแม่พูดชมอะไรฉันดีๆ ฉันจะเหลิงและร้ายกาจ เพราะงั้นฉันเลยไม่เคยได้ยินคำชมหลุดออกมาจากปากแม่เลย แม้ว่าฉันจะต้องการคำชมจากแม่อย่างยิ่งยวดและพยายามทำดีทุกอย่างตลอดชีวิตเพื่อสิ่งนั้น ฉันมีโทรทัศน์เป็นเพื่อนสนิทของฉัน จอมันสว่างตั้งแต่เช้า เที่ยง ถึงกลางคืน เวลาต้องการจะพูดอะไรกับฉัน พวกเขาจะตะโกนสั่ง แม่ไม่เคยถามความเห็นฉัน แม่ต้องการการทำตามอย่างเคร่งครัด ครอบครัวของเราไม่เคยไปไหนๆ ด้วยกัน ไม่มีการเล่น มีแต่งาน งาน งาน ชีวิตคือกิจการที่เอาจริงเอาจัง ความต้องการบางอย่างเท่านั้นที่ได้รับการตอบสนอง ฉันไม่เคยมีตัวอย่างของการให้แบบไม่เห็นแก่ตัว การยื่นมือออกไปช่วยเหลือผู้อื่น ชีวิตมันสิ้นหวัง ไม่เคยมีแผนที่จะแก้ปัญหา เราเพียงแต่อยู่กันไปวันๆ”
มีกี่คนที่โตขึ้นมาในโลกใบนี้ ว่างเปล่าเพราะถูกละเลย เป็นผลิตผลของชายหญิงที่ไม่มีพันธสัญญาที่จริงจังต่อกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพันธสัญญาที่มีต่อลูกๆ ที่พวกเขาทำให้เกิดมา
คนที่ว่างเปล่า เป็นมากกว่าเพลงที่ฟังแล้วน้ำตาไหล ย้อนนึกไปถึงสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเนืองแน่นไปด้วยเด็กๆ ที่กำพร้าพ่อแม่ ทำไมเด็กเหล่านี้ถึงไม่ยอมนั่งซักทีจนกระทั่งขวบหนึ่งผ่านไป ทำไมหลายคนไม่เริ่มตั้งไข่หรือเดินจนกระทั่งสองขวบ ทำไมหลายคนถึงตายในช่วงสองสามปีแรกของชีวิต พวกเขามีอาหารกิน มีที่พัก มีเปลนอน แต่เจ้าหน้าที่ทำงานเป็นกะ มีปากหลายเกินไปให้ป้อน มีก้นหลายก้นเกินไปให้เช็ดล้าง ไม่มีใครมีเวลา พลังงาน หรือแนวโน้มที่จะให้ความรักได้พอ….
การละเลย การมีความรู้สึกของความว่างเปล่าไม่จำเป็นต้องเป็นการถูกทิ้งอย่างชัดเจนเหมือนในเรื่องข้างต้น เด็กคนหนึ่งสามารถจะเติบโตขึ้นมาอย่างว่างเปล่ากับพ่อแม่ที่สนใจแต่เพียงความต้องการทางกาย แต่ไม่เคยตระหนักว่าเด็กๆ ก็ต้องการกำลังใจ การยอมรับ คำชม หรือการยกย่อง เพื่อจะโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์เช่นกัน
เนื่องจากบางคนโตมาโดยเป็นผลิตผลของพ่อแม่ที่มีพันธสัญญากับกิจกรรมอื่นนอกบ้านเหมือนกัน จึงไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเล่นกีฬากับลูก การปิคนิคในสวน การสู้ปล้ำกับลูกบนพื้น หรือการเล่านิทานก่อนนอน ในการที่จะเติบโตอย่างสมบูรณ์ เด็กๆ ต้องการความสนใจทางด้านจิตใจจากพ่อแม่ด้วย พวกเขาต้องการรู้ว่าเขาเป็นคนสำคัญสำหรับพ่อแม่ เมื่องาน ปัญหา หรือทีวีมาขโมยเวลาซึ่งควรจะเป็นของเด็กๆ ที่กำลังโตหรือเด็กวัยรุ่นไป นั่นคือการทำร้ายเด็กด้วย…
(ยังมีต่อ)
แปลจาก Creating Love โดย Kay Kuzma (1997) สำนักพิมพ์ Pacific Press Publishing Association , USA.
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « แจ้งเปลี่ยนชื่อ นามแฝง ค่ะ
- ใหม่กว่า » Love cup (3) เติมวิตามินรักกันเถอะ
08 พฤศจิกายน 2550 21:33
#1248
ขอหยิบยืมลักษณะ 10 ประการไปใช้บ้างนะครับ