ความเห็น: 8
ฤา จะสิ้นเสน่หา?
ไม่ใช่นวนิยายนะคะ มันคือความพยายามในการเรียบเรียงเรื่องราวความรัก การใช้ชีวิตคู่ ในยุคที่ "กิ๊กเฟื่องฟู" กับ "ฤดูกาลแต่งงาน"
เดือนนี้มีงานแต่งงานกันมาก เขียนไว้ให้น้องๆ ที่แต่งงานมาระยะหนึ่งก็แล้วกัน หรือน้องโด่ง ที่กำลังจะจูงมือเข้าประตูวิวาห์ ในอีก 14 วันนี้จะมาอ่านก็ไม่ว่ากันนะคะ ...
แม้เราจะต่างด้วยกาลเวลาความรักยังพาให้เราพบ-กัน
ชาตินี้-ชาติไหน หัวใจผูกพัน อุปสรรคใดนั้น-ไม่อาจขวางกั้น-รักเรา
ขอเพียงเธอกอด กอดฉันให้นาน กระซิบ-รำพันว่ารัก เบาๆ
และนับจากนี้ ขอมีเพียงเรา จะร้อน จะหนาว-ฉันจะไม่จากเธอไปไหน
ยอม...ฉัน-ยอมตก-บ่วงแห่งรัก-ขอสมัคร รักเธอ-ไม่มีเสื่อมคลาย
แม้...ต้องแลก...ด้วยลมหาย-ใจ...
ก็ไม่หวั่นไหวถ้าได้ตายเคียงข้างกับเธอ...
ขอเพียงเธอกอด กอดฉันให้นาน กระซิบ-รำพันว่า "รัก" เบาๆ
และนับจากนี้ ขอมีเพียงเรา จะร้อนจะหนาว-ฉันจะไม่จากเธอไปไหน
ยอม...ฉัน-ยอมตก-บ่วงแห่งรัก-ขอสมัครรักเธอ-มิมีเสื่อมคลาย
แม้...ต้องแลก...ด้วยลมหายใจ...
ก็ไม่หวั่นไหวถ้าได้ตายเคียงข้างกับเธอ...
ไม่ขอเปลี่ยนใจ แม้ต้องตายเคียง-ข้างกับเธอ"หวานซะ" "หวานจริงๆ" ยิ่งฟังยิ่งหวาน
แม้ดิฉันจะแต่งงานมาเพียงครั้งเดียว แต่ก็เรียนรู้ไปทุกๆ วันของการแต่งงานนะคะ
จะว่าไปแล้วการแต่งงานนั้นมี ช่วงเวลาที่เปราะบาง อยู่หลายช่วง
ช่วงแรกคือตอนแต่งงานใหม่ๆ มาอยู่ด้วยกันไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ต่างคนต่างเป็นตัวตนมาก่อนอาจต้องเจออะไรแบบไม่คาดคิด ...
ความจริงคือเราเห็นกันไม่หมดตอนก่อนแต่งงาน ก่อนมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน อาจมีบางคู่ "ช๊อค" ที่มาเจอตัวตนจริงหลังแต่งงาน แต่หากเป็นคู่ที่มาจากพื้นฐานความรัก หญิง-ชายต้องดำรงเผ่าพันธ์ ไม่มีอะไรผิดปกติมาก ก็จะผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้
หลายๆคู่ที่ ดิฉันต้องลุ้นว่ามันจะไปกันรอดมั้ยเพราะความต่าง ... ใครที่มีลูกเร็วก็ต้องปันความรับผิดชอบกันดีๆ เพราะเราเพิ่งผ่านพ้นวัยแห่งความอิสระมาก็ ก่อนแต่งเราเห็นกันมุมหนึ่ง แต่พอแต่งงานกันไปแล้วเห็นอีกมุมหนึ่ง หรือเห็นทุกมุมความเป็นผู้ใหญ่อาจจะยังไม่เต็มพร้อม
ช่วงถัดมา (ช่วงหมดโปรฯ) คือเริ่มเบื่อ คล้ายๆ กับว่าอะไร อะไรก็รู้จักกันหมดแล้ว รวมเวลาที่จะอยู่และรู้จักกันหมดเขาว่า 7 ปีแรกของการแต่งงาน
ทุกอย่างเริ่มจะเหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ถ้าผ่านไปได้ช่วงนี้ก็จะมีความเป็นเพื่อนกันสูง แล้วความวุ่นวายเข้ามาเยือน มีลูกเต้าต้องเลี้ยงดู สร้างตัวทำมาหามามีคนช่วยกินช่วยใช้ ผ่านช่วงนิสัยฉัน นิสัยเธอ มาเจอนิสัยลูกอีกสักคนสองคน พอได้เจ็บหัว
เป็นความรับผิดชอบ ของคนทั้งคู่ที่จะต้องแบ่งปัน เสียสละความสุขสบายที่เคยมีเคยเป็นเคยได้ ผู้หญิงที่เคยได้รับการตามใจมากๆ ให้เวลามากๆ เวลานั้นก็จะถูกแบ่งปันไปให้ลูก ให้งานที่กำลังเข้มข้นผู้หญิงผู้ชายสมัยนี้ต้องรับผิดชอบหน้าที่การงานเท่าๆ กัน จะปล่อยให้ฝ่ายหญิงรับผิดชอบลูกอยู่ฝ่ายเดียวเพราะเธอเป็นแม่ ก็จะดูโหดร้ายเกินไปนะคะ การงานของทั้งคู่กำลังก้าวหน้า มั่นคง มันคือการวางแผนความรับผิดชอบร่วมกัน
10 ปี ผ่านไป พบว่ามีอยู่ 2 ทางคือ มั่นคงอยู่กันได้อย่างยอมรับกันและกันผ่านกาลเวลามาด้วยกันอย่างพร้อมจะเรียนรู้ รู้จักกันหมดจนไม่มีอะไรจะศึกษากันอีกแล้ว คงเหลือแต่การยอมรับกัน ไม่มีงอนแบบบ้าบอ งี่เง่ากันแล้ว ช่วงนี้เองที่ต้องหมั่นเติมความเสน่หา เติมความรักให้กัน
อีกทางคือ ความชิน ความเฉย ชา ที่เกิดจากการผ่านวันคืนที่ไม่น่าประทับใจซึ่งกันและกัน ความเสน่หาที่มีต่อกันลดลง ลดลง จนกระทั่งไม่เหลืออีกเลย จะเจอกันหรือไม่เจอกัน ก็ไม่เป็นไร ไม่โกรธกันมีความเป็นเพื่อนเหลืออยู่บ้างแต่หนทางที่จะอยู่ร่วมกันได้อีกยาก ทั้งคู่จึงแอบคิดเสมอว่า จะอยู่ด้วยกันไปทำไม? ฟ่ะ!
สุกงอมได้ที่ทั้งความเข้าอกเข้าใจยอมรับกันแต่ทว่า...มีความชา เฉย ชินเข้ามาครองพื้นที่ทั้งหมด หาเสน่หา หาเจอไม่ แยกจากกันด้วยดีช่วงนี้เองต่างฝ่ายต่างคิดว่าไม่อยู่ด้วยกันก็ได้ อยู่ด้วยกันมันอึดอัด จากตรงนี้เองที่ต่างคนก็ต่างไป...อยู่ตามแบบของตัวเอง....
ใช้คำรวมว่า "ทัศนคติที่ไม่ตรงกัน" เพื่อการเลิกลาที่ไม่มีต้องมานั่งแจกแจงให้ใครฟัง นี่ยังไม่รวม กรณีมีนอกสมรสมาแทรกแซง นะคะ....
หมั่นคุยกัน ดูแลเอาใจใส่ จะทำให้เราไม่หลุดจากกัน เข้าใจ ผูกพันกัน การที่ผู้หญิงเฝ้าถาม เซ้าซี้โน่นนี่นั่นที่ดูเหมือนจะอยากรู้ไปหมด "นั่นคือการหมั่นคุยกัน" เพราะเธอไม่อยากให้เราหลุดออกจากกัน ผู้หญิงให้ความสำคัญกับการมีชีวิตคู่ หากแต่งงานแล้วก็จะทุ่มเทมากมีความกังวลถึงอนาคต สารพัด จนยากที่ผู้ชายจะเข้าใจว่าเธอกำลังให้ความสำคัญกับชีวิตคู่ของเธอ
กลับแปลความเป็นการยุ่มย่ามไปซะทุกเรื่องไปและไม่เหลือพื้นที่ความเป็นส่วนตัวให้
ท้าวเองก็ผ่านชีวิตแต่งงานมา 16 ปีแล้วนานมากนานจนเข้าใจ...ทุกข์สุข..ของชีวิตพอควร ... อิ..อิ...
เขียนไว้ให้น้องที่กำลังเจริญรอยตาม พิจารณาเองค่ะ .... มิบังอาจจะสอนใคร
ขอเพียงเธอกอด กอดฉันให้นาน กระซิบ-รำพันว่า "รัก" เบาๆ
และนับจากนี้ ขอมีเพียงเรา จะร้อนจะหนาว-ฉันจะไม่จากเธอไปไหน
ยอม...ฉัน-ยอมตก-บ่วงแห่งรัก-ขอสมัครรักเธอ-มิมีเสื่อมคลาย
แม้...ต้องแลก...ด้วยลมหายใจ...
ก็ไม่หวั่นไหวถ้าได้ตายเคียงข้างกับเธอ...
หวานๆ ก่อน-นอน...
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « รักแท้อยู่ที่ไหนกัน?
- ใหม่กว่า » สามี 4 คน ของคุณท้าว"
ความเห็น
![]() |
ท่วงทำนองแห่งการใช้ชีวิต
สะท้อนบทเรียนการอยู่ร่วม เพื่อการอยู่รอด
หลายท่านที่อ่านอย่างเข้าใจ
มันจะกระเทือนจิตสำนึกให้กระเพื่อม
เพื่อสลายบางสิ่งบางอย่างที่เก็บซุกไว้
สลายคำถามที่ไม่มีคัำตอบ
ผ่านบทเรียนแห่งบันทึกนี้
ไปสู่ทางเลือกข้างหน้า
โดยมีโอกาสได้ย้อนเอาห้วงเวลาของอดีต
เรียงร้อยล้านเหตุผลเรียบเรียงคำตอบ
แล้วเราจะพบว่าโอกาสแห่งการได้ให้เวลา
ในการพิจารณา
หลายสิ่งสวยงาม...ซ่อนอยู่เสมอ
..........
เราเคยหวานมากๆ อยู่เหมือนกัน
ทุกวันนี้ก็ลดหวานลงหน่อย เพราะนานไปจะเป็นเบาหวาน แต่ความรักอาจไม่น้อยลง และความเสน่หาก็ยังไม่จากหายไป อิอิ
"ใจสั่งมา"
24 มีนาคม 2557 01:17
#96876
อิอิอิ
หวานซะนะคุณพี่
การอยู่ร่วมกันต้องอาศัยความเข้าใจกันและกัน ถ้าเอาฉันเป็นใหญ่ เอาเธอเป็นใหญ่ แบบนี้ไปไม่รอดแน่ ๆ มันคงไม่ใช่ตรงกลาง แต่เป็นเรื่องการยอมรับซึ่งกันและกัน
เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คน ๒ คนที่มาจากที่ต่างกันมาอยู่ร่วมกัน ไม่เหมือนตอนแรกคบกันใหม่ ๆ
มันไม่มีสูตรสำเร็จว่ามั๊ยท้าวฯ คนที่โชคดีย่อมประสบพบกับความรัก ความเข้าใจ สิเน่หากันไปตลอด
ท้ายสุดชีวิตมันกลับมาตรงที่ว่า "วาง"
เมื่อวางก็จะว่าง เมื่อว่างก็จะบางเบาดุจขนนก
ผมสงสัยเหมือนกันว่าคู่โด่งเขากิ๊กกันตอนไหน
ฮา
ผมพูดไปเรื่อยนะท้าวฯ อย่าเอาเป็นสาระ
อิอิอิ
เราเอง