ความเห็น: 14
ขึ้นโรงพัก....ในนามประชาชน
ดึกแล้วคืนนี้ดิฉั้นยังไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ จิตฟุ้งซ่าน..ลุกขึ้นกินนมอุ่น...นอนลงไปนับแกะ...แกะดำตัวที่ 1 กระโดดข้ามรั้วไป..แกะดำตัวที่ 2 กระโดดข้ามรั้วไป......ตัวที่ 100 กระโดดข้ามรั้วไปแล้ว...ก็ไม่หลับลุกขึ้นมาทำงาน..ข่มใจ...ข่มความรู้สึก...ข่มตา...ทำไมมันยากจัง
เมื่อเย็นที่ผ่านมาดิฉั้นไปรับลูกน้อยตามปกติชีวิต..เธอชวนไปซื้ออุปกรณ์การเรียนที่เธอจะใช้ในวันพรุ่งนี้ที่ร้าน "สมอทอง" แถวๆสามชัย...เวลา 6 โมงสิบห้าดิฉั้นเจอมืออาชีพ"กระชากกระเป๋า"ระหว่างดิฉั้นกำลังล๊อครถด้วยมือขวา...มือซ้ายถือกระเป๋าหิ้วใบเล็ก ชั่ววินาทีรู้สึกเหมือนโดนของแข็งมาชนที่เหนือเข่าซ้ายคิดว่าตัวเองโดนรถชน...โอ้ยเจ็บขา..เบี่ยงตัวหาต้นเหตุ..มอเตอร์ไซด์คันหนึ่งขับไปอย่างรวดเร็วพร้อมกระเป๋าถือของดิฉัน..ดิฉั้นถูกกระชากกระเป๋าไปแล้ว..โดยไม่ทันเห็นไม่ทันเรียกใครก็ไปไกลถึงหน้า เคแอนด์เคแล้ว...แม่จ๋าช่วยด้วย.....ตกใจ!.....
แม่เจ็บมั้ยเจ้าสองตัวของดิฉั้นกรูเข้ามาหาแม่...ลูกเห็นมันเอากระเป๋าแม่ไป....บอกตำรวจแม่..เราต้องบอกตำรวจลูกหาตำรวจก่อน..แถวนี้ไม่มีตำรวจเลยแม่
คนใจดีที่เห็นเหตการณ์แถวนั้น..มามุงถามไถ่..
โทรศัพท์ก่อนพี่..โทรแจ้งอายัดบัตร..ระงับเบอร์โทรศัพท์มือถือ น้องสาววัยรุ่นให้ใช้โทรศัพท์จัดการธุระเบื้องต้นงแม่ค้าแถวนั้นชวนกินข้าว..ขอบคุณค่ะ..ดิฉั้นนึกถึงบ้าน อยากกลับบ้านให้เร็วที่สุด..เด็กๆ คงตกใจมากแล้ว....ดิฉั้นรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของคนข้างทาง...คุณลุงบอกว่าไปแจ้งความก่อน..อย่าพึ่งกลับบ้าน รอพรุ่งนี้จะช้าไปเดี๋ยวเขาเอาบัตรเราไปทำอะไร..แจ้งความไว้ก่อน
ไปโรงพัก..คุณตำรวจให้ดิฉั้นโทรแจ้ง 191 ก่อนรับแจ้งความ...บันทึกรายละเอียดและทรัพย์สินที่หายไป.. พร้อมเล่าว่าเป็นเรื่องปกติ ชุกชุมมากระยะนี้มีคนแจ้งความคดีวิ่งราวลักษณะนี้วันละถึง 20-30 ราย ช่วงเวลานี้หล่ะเลิกงานมาหาข้าวกินกัน..ขณะที่เราเหนื่อยจากงานมา..พวกนี้ก็ออกหากินพอดี...นายตำรวจลงบันทึกพลางบ่นไปพลาง..น้องนี่ดีหน่อยนะไม่บาดเจ็บ บางคนขาหัก..ตำรวจเห็นก็ช่วยอะไรไม่ได้..ตำรวจก็กลัวเจ็บเหมือนกันอ้าว!กลายเป็นเรื่องธรรมดาของตำรวจไปซะแล้ว...
ดิฉั้นกลับขึ้นรถมา..ตอบคำถามเจ้าสองตัว..
เจ้าพี่สาว"แม่ตำรวจเขาไม่ช่วยเหรอ...แล้วทำไมเขาบอกเป็นเรื่องปกติหล่ะแม่"คือมันมีมากไงคะลูกเราต้องระวังตัวเองตำรวจระวังให้ไม่ไหวเจ้าน้องสาว..."แม่ใครอ่ะ" "โจรเหรอแม่".."รีบกลับบ้านเร็วลูกกลัว"
ถึงบ้าน..ดิฉั้นสำรวจร่างกายมีแผลเขียวช้ำเป็นวงเหมือนชนของแข็งที่ขาซ้าย..ลำดับเหตการณ์ให้คุณผู้ชายฟัง..ระหว่างที่กำลังปิดประตูรถส่งเสียงไล่ลูกๆให้ไปยืนรอที่ข้างถนน....มีรถเครื่องขับมาประชิด..คนซ้อนหลังน่าจะใช้ไม้หรือเหล็กทิ่มที่ขา หวังให้ตกใจเพื่อจะได้เบี่ยงตัวดูว่าเกิดอะไรขึ้น.อาศัยจังหวะตกใจแย่งกระเป๋าขับรถหนีไป.....ตอนแรกคิดว่ารถชน...
หากเกิดกรณีเช่นนี้.
แจ้ง 191
แจ้งอายัดบัตรทั้งหลาย
ไปโรงพักแจ้งความ
กลับบ้าน..ทำใจให้ปกติทรัพย์สินเป็นของนอกกาย..ไม่เจ็บตัวก็ดีแล้ว...พยายามเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองให้ปกติ...หาอะไรทำไม่จมจ่อมกับความเสียดายตังส์ที่โดนเอาไป....(ยากมากหาเรื่องทำตั้ง 10 เรื่องแล้วยังนอนไม่หลับเลย)
หากนอนไม่หลับก็ลุกขึ้นมาหาอะไรทำ......
รุ่งขี้นไปจัดการเรื่องบัตรที่เกี่ยวข้อง...
เล่าเหตุการณ์ที่เกิดให้คนอื่นฟัง..เพื่อได้ระวังตนเอง
ว่าแต่พรุ่งนี้...ดิฉั้นคงต้องหาคนใจดีเลี้ยงข้าวกลางวันปลอบใจ..แบบว่ามีสตางค์เหลือในกระเป๋ากางเกง...5 บาทเอง......
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...
Other Posts By This Blogger
- Older « ฝึกจิต :เมื่อจิตไม่นิ่ง..ก็วุ่นว...
- Newer » เพียงเราเข้าใจ
ความเห็น
สวัสดีค่ะพี่เมตตา
คิดว่าถึงคราวโชคไม่ดีของเราก็แล้วกันน่ะพี่ ต่อไปเราจะได้ระมัดระวังตัวมากกว่านี้ เพราะตัวเองก็มักจะถือกระเป๋าแบบพี่ แถมอุ้มลูกอีกต่างหาก วันหลังจะได้เก็บกระเป๋าไว้ในกางเกงให้ดี ขอบคุณค่ะ
- พี่จิ๊บไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ยคะ ดีแล้วค่ะที่พี่กับน้องๆอีก2คนไม่เป็นอะไร
- เด๋วอิมจะนำของฝากจากปัตตานีมาฝากนะคะ (อะไรดีน้า??) อิอิ
- ตกลงน้องแป๊ดพาไปปลอบขวัญแล้วหรือยัง?
- อิม..!.".ดีแล้วค่ะ" อ่านครั้งแรกนึกว่าอิมบอกว่าดีแล้ว แต่พออ่านต่อไป..........
- ........"ที่พี่กับน้องๆอีก2คนไม่เป็นอะไร"
- เฮ้อ!
- ไม่เป็นไรน้อง เงินทองของนอกกาย หากร่างกายยังแข็งแรง มีสติ +สมอง เราหาใหม่ได้
- นี่ก็อีกตัวอย่างพี่เองก็เคยโดนฉกกระเป๋ามาแล้วครั้งหนึ่งที่ตลาดกิมหยง เวลาพลบค่ำนี่แหละจ้ะ พี่เดินจะขึ้นรถกับลูกสามคน มีรถมอเตอร์ไซค์คนนั่งมาสองคนสวมหมวกกันน๊อกขับมาใกล้แล้วพูดส่งเสียงทักทายไปที่ลูก พี่หันไปดูแย่งกระเป๋าในมือขณะที่เราไม่ทันได้ระวังตัว นี่ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่โจรใช้หากิน แต่ของคุณเมตตา ใช้ไม้แทงไปที่ขาให้ตกใจใช้ช่วงจังหวะเผลอแย่งกระเป๋าทันที
- ทุกวันนี้พี่ชอบใส่เสื้อกางเกงที่มีประเป๋าจะได้ไม่ต้องถือกระเป๋าตังค์ค่ะ
- จิ๊บ..พี่แจ๋วจะเลี้ยงปลอบขวัญ..ไม่ต้องคิดมากค่ะ
- สงสารน้องจังเลย ขัวญเอ๋ยขัวญกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวนะ
- และขอบคุณมากที่เล่าให้ทราบ จะได้ระมัดระวังมากขึ้น
- พี่เมตตาไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ยคะโขคดีที่มันไม่ทำร้ายเอา
- หายเร็ว ๆ นะคะ
- ตั้งแต่มีข่าวแย่งกระเป๋า ไม่เคยที่จะนำกระเป๋ามาทำงานเลย ถ้าเกิดวันไหนเอามาจะใส่ในถุงพลาสติกทึบ ๆ แล้วแขวนหน้ารถ
- ทุกวันนี้เวลานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ติดไฟแดง ใครมาจอดรถใกล้ ๆ จะรู้สึกกลัวมาก
ดีจัง ที่พี่และหลานๆ ปลอดภัย เหตุเกิดใกล้บ้านเจนเลยค่ะ ขออนุญาตเสนอแนะว่า 1) ใช้กระเป๋าสะพาย(พาดบ่าสะพายแล่ง) หรือ 2) เปลี่ยนรถเป็นแบบที่มีที่เก็บของใต้เบาะค่ะ ..ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเลือกข้อ 2 ขอแนะนำข้อ 3 ต่อว่า บอกขายรถมือสองคันนี้เมื่อไหร่ บอกเจนด้วยนะคะ...^o^
21 November 2007 08:57
#1995