comment: 2
เรื่องเล่าจากบ้านสวน...ตอนตามรอยพ่อด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เรื่องเล่าจากบ้านสวน...ตอนตามรอยพ่อด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ (29-30 ตุลาคม 2559) ได้มีโอกาสกลับบ้านเกิด ทุกครั้งที่ได้กลับบ้านสถานที่ที่ต้องไปคือหนำของรจนา (เป็นชื่อที่เจ้าของบันทึกตั้งขึ้นเอง) หนำเป็นภาษาถิ่นของภาคใต้ชาวนคร เป็นภาษาพื้นบ้านของคนใต้ที่ใช้เรียกสิ่งก่อสร้างคล้ายบ้านขนาดเล็กๆ ภาษาทางราชการเค้าเรียกว่า กระท่อม ซึ่งพ่อได้สร้างไว้พักกายพักใจ เมื่อต้องออกไปปฎิบัติภาระกิจที่สวนฝรั่ง เค้าไม่ชอบที่จะอยู่บ้านแต่ชอบที่จะอยู่ที่สวนชายนาไปสัมผัสชีวิตอย่างธรรมชาติ ไปอยู่กับต้นไม้ วันนี้จึงได้มีโอกาสนำเรื่องราวการดำเนินชีวิตด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของในหลวงมาเล่าสู่กันฟัง ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเกษตรกร ส่วนใหญ่จะปลูกผลไม้เป็นหลัก พ่อยึดหลักการดำเนินชีวิตตามรอยของพ่อหลวงโดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้
“เศรษฐกิจพอเพียงแปลว่า Sufficiency Economy คำว่า Sufficiency Economy นี้ ไม่มีในตำราเศรษฐกิจ. จะมีได้อย่างไร เพราะว่าเป็นทฤษฎีใหม่ Sufficiency Economy นั้น ไม่มีในตำราเพราะหมายความว่าเรามีความคิดใหม่…และโดยที่ท่านผู้เชี่ยวชาญสนใจ ก็หมายความว่า เราก็สามารถที่จะไปปรับปรุง หรือไปใช้หลักการเพื่อที่จะให้เศรษฐกิจของประเทศและของโลกพัฒนาดีขึ้น” (พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๒)
จนวันหนึ่งพ่อได้รับการคัดเลือกให้ เป็นครอบครัวตัวอย่างการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องในวโรการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2550
พ่อดีใจและภูมิใจกับรางวัลนี้มาก และยังได้รับรางวัลครอบครัวสีขาว ใช้ชีวิตห่างไกลจากยาเสพติด (รางวัลที่พ่อได้รับเป็นนาฬิกาติดฝาผนังเป็นรูปพระบรมฉายาลักษณ์)
พ่อจะนำรางวัลที่ได้และรูปพระบรมฉายาลักษณ์ที่ตัดเก็บไว้จากปฏิทินมาติดไว้ที่ฝาผนัง
หนำปลายนาของรจนาจะประดับด้วยธงชาติไทยและธงสัญลักษณ์พระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ผืนน้อยๆ สองผืนติดคู่กัน ที่โบกสบัดเมื่อโดนลมธรรมชาติจากชายทุ่ง
สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากถนนสายหลักไม่มากนักและมีถนนซอยตัดผ่าน ดังนั้นสวนบริเวณนี้ติดกับถนนมีการสัญจรไปมาของผู้คน
พื้นที่โดยรอบพ่อปลูกมะพร้าวน้ำหอมสลับกับต้นหมากเพื่อทำเป็นรั้วกั้นอาณาเขต พ่อเริ่มโชว์นวัตกรรมที่พ่อคิดขึ้นมาเอง บอกว่าเราไปต้องขึ้นไปตัดลูกมะพร้าวน้ำหอมแต่สามารถตัดทั้งทะลายจากด้านล่างแล้วปล่อยให้มันไหลมาตามสายเชือก
ถัดจากรั้วรอบอาณาเขตภายในพื้นที่หลัก พ่อปลูกต้นฝรั่งซึ่งมีอยู่ 3 สายพันธุ์ สายพันธุ์แรกเริ่มปลูกเมื่อหลายสิบปีก่อนเป็นฝรั่งพันธุ์แป้นสีทองกับพันธุ์สาลี เนื่องจากได้รับการดูแลและบำรุงรักษาเป็นอย่างดีทำให้อายุของต้นฝรั่งยืนยาวมากปลูกมาเป็น 10 กว่าปียังมีชีวิตรอดและให้ผลผลิตอย่างต่อเนื่อง ต่อมาได้ปลูกฝรั่งพันธุ์กิจจูเพิ่มเติม ยิ่งช่วงนี้ฝนตกแทบทุกวันต้นไม้ได้รับน้ำเต็มที่ ฝรั่งออกลูกออกผลค่อนข้างเยอะมาก ลูกฝรั่งเล็กๆต้องได้รับการดูแลและตกแต่ง ช่วงที่ฝรั่งออกลูกเล็กๆต้องตัดแต่งตัดลูกที่ไม่สมบรูณ์ทิ้งและรักษาลูกที่สมบรูณ์ได้ด้วยการห่อหุ้มฝรั่งลูกเล็กๆด้วยกระดาษและใส่ถุงอีกชั้นเพื่อป้องกันแมลงมากัดกิน สวนเราจะไม่ใช้สารเคมีเพราะเราก็ตระหนักถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
ตัวอย่างผลผลิตจากสวนฝรั่งกิจจูลูกละครึ่งกิโลกรัม ฝรั่งพันธุ์นี้ราคาจะแพงกว่าฝรั่งพันธุ์อื่นๆ เพราะเค้าไร้เมล็ด กรอบ แต่โดยส่วนตัวแล้วเจ้าของบันทึกชอบพันธุ์แป้นสีทองมากกว่า ลักษณะของฝรั่งแป้นสีทองลูกจะกลมๆแป้นๆหวานกรอบกว่าพันธุ์กิจจู ส่วนฝรั่งพันธุ์สาลีลูกจะค่อนข้างโต เมล็ดจะเยอะ ไม่ค่อยชอบ
ณ พื้นที่ตรงนี้นอกจากปลูกฝรั่งเป็นหลักแล้ว ระหว่างแถวของต้นฝรั่งพ่อจะปลูกพืชและต้นไม้อื่นๆ เช่น ทุเรียน สลับกันไประหว่างแถวของต้นฝรั่งพื้นที่ว่างระหว่างแถวพ่อจะปลูกพืชผักสวนครัว เช่น มะเขือ พริก ผักบุ้ง มะนาว มะม่วง ต้นเหลียง ผักโขม ผักตำลึง ถั่วฝักยาว ขิงข่า ตะไคร้ กระช่าย ประมาณว่าจะกินจะทานอะไรก็ปลูกสิ่งที่จะกิน
นอกจากนั้นพ่อก็ปลูกพืชที่ต้องนำมาแปรรูปอีก เช่น อ้อย กระเจี๊ยบ ดอกอัญชัน เพื่อเอามาเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำสมุนไพร
ข้อดีของการปลูกพืชแบบผสมในพื้นที่เล็กๆของเราคือ ผลผลิตแต่ละอย่างหมุนเวียนกันผลิดอกออกผล เพราะฉะนั้นถ้าเป็นเรื่องของพืชผักและผลไม้เราแทบจะไม่ต้องซื้อหาเลย แต่มีมากพอที่สามารถนำมาวางขายหน้าสวนได้อีก แม่เลยตั้งร้านขายผลผลิตในสวนผสมของเราได้เลย ทุกอย่างสด ใหม่ ไร้สารเคมี
แล้ววันนั้นพ่อก็พาเราเดินชมผลผลิตที่พ่อกับแม่ได้ช่วยกันสร้างขึ้น ชี้ให้ดูโน่นดูนี้ที่เพิ่งปลูกเพิ่มเติม เจ้าของบันทึกชมพ่อตัวเองว่าสุดเลยเกษตรกรดีเด่น แต่พ่อกลับบอกว่า
“พ่อไม่ได้เป็นเกษตรกรดีเด่น แต่พ่อเป็นเกษตรกรที่พอเพียง”
_/!\__/!\__/!\_
พ่อดำเนินชีวิตตามรอยพ่อหลวง ซึ่งเราก็ซึมซับได้ตั้งแต่เด็กๆ เจ้าของบันทึกโชคดีมากที่มีทั้งพ่อและพ่อหลวงเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต
……………………………………………………………………………………………………….
ภาระกิจหลักอีกอย่างที่กลับบ้านเกิดไปเมื่อวันนั้นคือ กลับไปช่วยงานบุญตามประเพณีชาวพุทธที่วัดใกล้บ้าน ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันทำบุญทอดกฐินสามัคคีสมทบทุนสร้างศาลาปลายทางให้กับผู้ที่เสียชีวิตและซ่อมแซ่มเมรุที่ชำรุด (เนื่องจากเป็นความตั้งใจว่าถ้าหากวันหนึ่งเรามีกำลังพอที่จะช่วยชุมชนบ้านเกิดได้ เราก็พร้อมที่ช่วยตามกำลังที่สามารถทำได้) เพราะชีวิตในวัยเด็กของเจ้าของบันทึกจะมีความผูกพันธ์กับชุมชน บ้าน วัด โรงเรียน ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด
................................ชีวิตบ้านๆของเจ้าของบันทึก.....................................
Other Posts By This Blogger
- Older « น้ำใจจาก...คนไม่รู้จัก
- Newer » เล่าเรื่อง: อบรม Pyrolysis-GC/MS
09 November 2016 14:03
#105666
ร่วมภาคภูมิใจด้วยค่ะ ช่วยให้เรามั่นใจในสิ่งที่เรามี
ขอบคุณที่แบ่งปันความภูมิใจ มั่นใจ ให้เกิดเป็นพลังของความเชื่อมั่นว่าเราพึ่งตนเองได้ พึ่งพาอาศัยกันได้
ต้นแบบให้ได้เรียนรู้ เอาอย่าง แบบบ้านเรา...ทุนชีวิตจากรุ่น...สู่รุ่น ที่เจริญ งดงาม
เจริญธรรมค่ะ
ยาดมเอง