ความเห็น: 14
เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริง ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร
เมื่อตอนที่ผมได้บวชเรียนอยู่ที่วัดหาดใหญ่ใน ระหว่างที่เดินไปเดินมารอฉันเพลผมได้เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ตอนแรกก็เฉยๆ เพราะคนทั่วไปก็มานั่งใต้ต้นไม้ทั้งนั้น
แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ดีก็อยากคุยด้วยทั้งที่ไม่รู้จัก
ก็เลยถามไปว่าลุงกินข้าวยัง
แกตอบกลับมาว่ายังครับหลวงพี่ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าเลย
ตอนแรกผมกะว่าถามไปงั้นๆแหละ เอ้า!!
แล้วทำไมยังไม่กิน ? แกตอบกลับมาว่าไม่มีเงิน!!!
ในใจผมคิดไปไกลแล้วครับเอาแล้วสูตรเดิมมาขอเงินชัวร์ ก็เลยโยนหินถามทางโดยการไปเอาข้าวมาให้แกกินข้าวจากตอนเช้าที่เหลือจากคนใส่บาตร แต่ผมดันลืมเอาช้อนมาเลยเดินกลับไปเอาช้อนมาให้แก "พอกลับมาอีกที่หมดแล้วววว!!!" แถมแกยังเดินทำท่าจะไปเปิดก๊อกกินน้ำอีก
ผมถามทันทีเลยว่าลุงจะทำไร
แกตอบว่าจะกินน้ำ
ในใจคิดเลยครับว่าไม่ใช่แล้วของจริงครับถึงขนาดต้องกินน้ำก๊อกกันเลย
ผมเลยต้องไปหยิบน้ำมาให้แกอีกขวด
- หลังจากนั้นก็เลยได้มานั่งคุยกัน ลุงมาจากไหน แกตอบว่าแกเป็นคนอีสาน หนีมาจากเรือประมงที่ไหนซักแห่งผมจำจังหวัดไม่ได้ แกโดนหลอกให้ขึ้นเรือประมงแถมต้องจ่ายเงินเพื่อสมัครงานเพื่อให้ได้ขึ้นเรือ พอได้ขึ้นแล้วเจ้าของเรือก็บอกว่าแกเป็นหนี้ ต้องทำงานชดใช้หนี้ สรุปว่าแกโดนหลอกให้ทำงานฟรีในเรือประมง อยู่ 2 ปี
สุดท้าย แกก็หนีมาตอนเรือจอดเทียบท่าแล้วนั่งรถมาหางานทำที่หาดใหญ่ เพิ่งมาถึงเมื่อคืน แกไปไหนไม่ถูก ผมก็เลยบอกว่าเอางี้ลุงลองนั่งรถหลังคาสูงสิจะได้รู้เส้นทาง แกบอกว่าไปไงละหลวงเงินไม่มี
- เออลืมไป แล้วลุงจะมาทำงานอะไร แกบอกว่าจะมาทำงานกรรมกร งานอะไรแกทำหมดแล้วแต่โชคชะตา พอได้ยินคำนี้น้ำตาเกือบไหล เราโชคดีเท่าไหร่แล้วที่เกิดมามีทุกอย่างพร้อม มีพ่อ มีแม่ มีญาติพี่น้องที่คอยช่วยเหลือ กับอีกคนที่ต้องเร่ร่อนมาหางานทำแถมยังโดนหลอก ถูกคนเอาเปรียบ แถมไม่มีเงินต้องกินน้ำก๊อก ขนาดผมเป็นพระยังคิดไปได้ว่าแกเป็นมิจฉาชีพมาหลอกขอเงิน
หลังจากนั้น เลยควักเงินในย่ามที่"เพิ่งสวดศพ"มาก่อนหน้านี้ 300 บาทให้แกไปเป็นเงินตั้งตัวและสวดให้พรไปว่าเงินนี้หลวงได้มาจากการสวดศพ เขาถวายมาเป็นเงินบุญถ้าโยมเอาไปทำในสิ่งที่ดีก็ขอให้เจริญๆ
"ถ้าโยมเอาไปซื้อเหล้าซื้อยาชีวิตก็จะตกต่ำ ขอให้เงินนี้เป็นเงินตั้งต้นชีวิตใหม่เถิด"
พอหลังสิ้นเสียงเท่านั้น "แกก้มลงกราบเท้าผมน้ำตาไหล" ผมก็แทบจะไหลเหมือนกันเพราะไม่เคยมีใครกราบเท้าผมมาก่อน เลยต้องยกแกขึ้น ไม่รู้ว่าตอนนี้แกเป็นอยู่ยังไงแล้วแต่ผมว่าแกคงจะเริ่มตั้งตนชีวิตใหม่ที่ดีมีชีวิตที่ดีมีงานทำแล้วแน่ๆครับ
เพราะขนาดผมซึ่งเป็นผู้ให้"ยังได้"อานิสงส์จากการให้ทำให้ผม"ได้งานที่ดี"ที่ศูนย์เครื่องมือ มอ
การให้ที่ดีต้องไม่หวังผลตอบแทนและอย่าไปคิดต่อว่าเขาจะเอาสิ่งนั้นสิ่งนี้ไปทำอะไร ให้จบลงแค่นั้นครับ ถึงจะมีความสุข
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « จากหน้างานสู่สิ่งประดิษฐ์ (เล็กๆ)
- ใหม่กว่า » เพื่อนร่วมเส้นทาง
ความเห็น
อ่านแล้วน้ำตาเกือบไหลตามเลยค่ะ นี่แหละหนอคนเรา บางครั้งเราตัดสินคนจากภายนอกกันไปหมด แสดงว่าลุงแกยังพอมีบุญที่ได้พบพระช่วยไว้ ไม่งั้นคงหิวแย่แน่เพราะดูท่าว่าคนคงไม่กล้าถามแกแน่ เฮ้อ...โลกนี้ไม่สมดุลเลยนะคะ เพิ่งดูรายการที่มีคนซื้อกระเป๋าใบละเป็นหมื่น เป็นล้านอยู่แว้บๆนี่เอง คงจะเป็นกรรมใครกรรมมัน ช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ขอให้กรรมดีๆที่คุณPanupong Lim-u-sanno ได้ทำมาช่วยส่งผลให้มีความสุขกายสุขใจตลอดปีหน้าและต่อๆไปนะคะ
นำขึ้นเป็นบันทึกแนะนำ 24 12 2012
1.ฝากย่อหน้า ทำสีอักษรให้อ่านง่าย นิดนุงนะคะ
2.ฝาก เพิ่มติด tag "การให้" เพิ่มอีกคำ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณทุกคนครับ ที่จริงแล้วผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรหลอกครับ ขนาดตอนนั้นผมเป็นพระยังคิดไปได้ว่าแกจะมาหลอกเอาเงิน เวรกำจริงๆผม คนที่ไหนจะมาหลอกพระบาปตายเลย
บันทึกนี้ ทำให้พี่มันหลา จองน้อง กลับมาแสดงตัวตนแล้วด้วย...
เย้ ๆ ....
ว่าแต่ บวชแล้ว เมื่อไหร่เบียด....
ทำดี ได้ดี
คิดแต่เรื่องดี ใจเราก็มีสุขค่ะ...
อ่านแล้วทำให้คิดว่าสังคมไทยเราต้องการคนดีมากกว่าคนเก่งครับ
มีคำสะกดผิดครับ ฉันท์เพล ควรแก้เป็น ฉันเพล
แว๊บ มาอ่านอีก 2 รอบ...
อยากเข้ามาอ่าน ... มุมเล็กๆ ของ "การให้"
"ให้" คือการสละออกไปจากตัว
ความสุขอยู่ตรงนี้เอง อย่าไปคิดมากเรื่องให้แล้วเขาจะไปทำอะไรต่อ
เพราะเช่นนั้นแล้วจะเป็นความทุกข์ จากการให้ขึ้นมาทันที
จากนั้นก็เรื่อง "กรรม" ที่คือการกระทำ ก็มารับสวมบทบาทต่อ
"ทำอย่างไรได้เช่นนั้น"
ยิ่งอ่านยิ่งลึกซึ้ง ดิฉันแทบจะตรัสรู้ได้ ด้วยบันทึกนี้เอง
ชอบจัง ขอบคุณจริงจัง
23 ธันวาคม 2555 15:35
#82673
ใจบุญจริงน้องเรา ก็ขอให้ได้รับผลตอบแทนบ้างนะคะ ในปีใหม่นี้ก็ขอให้มีความสุขมากๆ มีแฟนสวย ออ ลืมไปสวยอยู่แล้ว.....