มาเกริ่นกันต่อกับ UV 2

แล้วเราก็มาว่ากันต่อจากบันทึกที่แล้ว

ความแรงของรังสี UV แต่ละค่ามีผลต่อผิวของคนเรามากน้อยแค่ไหน

ตามตารางข้างล่างเลยค่ะ

จากตาราง UV index แสดงค่าถึง 11+ เท่านั้น

และได้อธิบายถึงระดับพลังการทำลายให้ได้เข้าใจกันง่ายๆ ด้วย

สำหรับบ้านเรา อยู่ในระดับการทำลายระดับสูงสุด Extreme เชียวนะ

...

...

"ผิวที่ไม่มีการป้องกันจะเกิดความเสียหายและไหม้ได้ภายในหนึ่งนาที"

อย่าตื่นเต้น ตกใจจนเกินไปกับข้อความข้างต้นนั่นน่ะคะ

เพราะค่า UV index เนี่ยเป็นค่าที่ฝรั่งเค้าตั้งขึ้นมา

ซึ่งเค้าก็น่าจะเอาเกณฑ์จากผิวซีดๆ แบบฝรั่งนั่นแหละ มาเป็นเกณฑ์

ถ้ามาพิจารณาโครงสร้างผิวของกลุ่มมองโกลอยด์ อย่างเราๆ 

แล้วล่ะก็ ผิวของเราเข้มแข็ง แข็งแรงกว่าผิวโคเคซอยด์ของฝรั่งมากมาย

แต่เราก็ยังจำเป็นต้องปกป้องผิวของเราอยู่ดีนั่นล่ะ

ตามนี้เลยจ้า

สรุปว่า เราต้องสวมเสื้อผ้าก่อนออกจากบ้านนะคะ (55+)

จะไม่ใส่เสื้อผ้าได้ก็เฉพาะบริเวณที่มี UV index 1-2 เท่านั้นนะ

ทาครีมกันแดดให้ผิวที่ไม่ได้ปกปิดด้วยเสื้อผ้า อย่างเช่น

ใบหน้า มือ เท้า (ถ้าไม่ใส่ถุงเท้า หรือรองเท้าที่มิดชิด)

สวมหมวกเพื่อป้องกันใบหน้า และหนังศรีษะ

(โดยเฉพาะคนที่มีเส้นผมไม่หนาแน่น ...อย่าประมาทไปนา)

...

...

ค่า UV index ตั้งแต่ 6 จนถึงระดับ Extreme

เค้าก็ไม่อยากให้ออกจากที่ร่มในช่วง 11.00-14.00 น.

เพราะเป็นช่วงที่แดดแรงที่สุดของวัน

แต่ถ้าจำเป็นต้องออกไป ก็ป้องกันให้มิดชิดนะคะ

(อย่าเอาค่ารังสี UV มาอ้างเพื่อจะอู้งานล่ะ เด๋วหัวหน้าจะเคืองเอาได้)

...

กะทิเองก็ต้องออกไปทานมื้อเที่ยง

เดินไป เดินกลับในช่วง 12.00-13.00 น. ทุกวัน จันทร์-ศุกร์

กะทิก็ดูแล ปกป้องผิวโดย

สวมเสื้อผ้าทุกวัน ....55+

ทาครีมกันแดดให้ใบหน้า และมือ ส่วนเท้า..มีถุงเท้าและรองเท้าที่ปกปิดมิดชิด

ไม่ได้สวมหมวก เพราะมีฮิญาบคลุมศรีษะอยู่แล้ว

ตอนเที่ยงก็เดินกางร่มกับเพื่อนๆ ไปทานข้าว (และเม้าท์มอย)

ร่มที่ใช้ควรเป็นร่มที่กันรังสี UV ได้ยิ่งดีเลยค่ะ

เพื่อการปกป้องที่มากขึ้น

...

...

จากตาราง มีบอกให้เราใช้แว่นตากันแดดด้วย

นั่นล่ะค่ะ จุดประสงค์ที่แท้จริงที่กะทิตั้งใจจะเขียน แต่ดั๊นนนนน

เกริ่นซะยาวมากมายถึง 2 บันทึก

ดังนั้น...แว่นตากันแดด เราจะว่ากันในบันทึกหน้าละกันนะคะ

แหล่งอ้างอิง

http://www.minussun.com/uvindex/index.html

ขอบคุณอีกครั้งนะค้าาาา