comment: 0
ความเป็นมาของ "ลิฟต์"
สำหรับอาคารสูงในปัจจุบันแล้วแน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่จะขาดไปเสียไม่ได้เลยนั่นก็คือ "ลิฟต์" เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่อยู่อาศัยหรือทำงานในอาคารดังกล่าวนั้นสามารถเดินทางขึ้นหรือลงไปตามชั้นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะถ้าเป็นอาคารสูงหลายชั้นด้วยแล้ว ลิฟต์ยิ่งกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เรียกว่าถ้าวันไหนลิฟต์เสียแล้ว ผู้ที่อยู่หรือทำงานในอาคารดังกล่าวนั้นแทบจะขาดใจตายให้ได้กันเลยทีเดียว (แอดมินเคยทำงานอยู่ชั้น 14 พอวันนึงลิฟต์เสียต้องเดินขึ้นบันไดไปทำงาน บอกเลยว่าวันนั้นขึ้นไปแล้วแทบไม่อยากออกจากห้องทำงานไปไหนเลย แม้แต่จะลงมากินข้าว!!!)
มนุษย์มีความพยายามสร้างอุปกรณ์ในการเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่
สูงมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว มีบันทึกว่า อาร์คีมีดีส (Archimedes) คือคนแรกที่สร้างลิฟต์ขึ้นในปี 236 ก่อนคริสต์กาล โดยใช้แรงคนหรือสัตว์ดึงเชือกเพื่อยกของขึ้น ต่อมาได้มีการพัฒนาใช้ระบบรอกและกว้านเพื่อเป็นเครื่องทุ่นแรง
จนกระทั่งในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อเกิดมีเครื่องจักรไอน้ำขึ้น จึงได้มีการนำเครื่องจักรกลไอน้ำมาใช้ในการเคลื่อนที่ของลิฟต์ ในปี 1823 เบอร์ตัน (Burton) และฮอร์เมอร์ (Hormer) สองสถาปนิกชาวอังกฤษ ได้สร้างสิ่งที่เรียกว่า Ascending Room ขึ้นสำหรับให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต่อมาในปี 1835 ฟรอสต์ (Frost) และ สตัตท์ (Stutt) ได้สร้าง Teagle หรือลิฟต์ที่ใช้ระบบสายเคเบิ้ลและตุ้มถ่วงน้ำหนักในการเคลื่อนที่ และในปี 1846 เซอร์วิลเลี่ยม อาร์มสตรอง (Sir William Armstrong) ได้คิดค้นลิฟต์ที่ทำงานด้วยระบบไฮดรอลิกขึ้น
อย่างไรก็ตามลิฟต์ในยุคแรกนั้นโดยมากจะใช้ในการขนส่งสิ่งของเท่านั้น ปัญหาใหญ่ที่ทำให้มันยังไม่ได้รับความนิยมใช้ในการโดยสารของมนุษย์ก็คือเรื่องความปลอดภัย เพราะหากเชือกหรือสายเคเบิ้ลขาด ลิฟต์ก็ตกลงมากระแทกพื้นอย่างรุนแรงในทันที
พัฒนาการครั้งสำคัญของลิฟต์เกิดขึ้นในปี 1852 เมื่อ เอลิชา โอทิส (Elisha Otis) นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ได้สร้างลิฟต์ที่มีระบบนิรภัยขึ้นเป็นผลสำเร็จ และได้นำมาแสดงต่อหน้าสาธารณชนที่นครนิวยอร์กในปีถัดมา โดยลิฟต์ของโอทิสจะมีระบบล็อคอัตโนมัติเมื่อเคเบิ้ลขาด ทำให้ลิฟต์ไม่ตกลงมากระแทกพื้น โอทิสได้ก่อตั้งบริษัทผลิตลิฟต์ของเขาในปี 1853
และนับแต่นั้นมา ความนิยมในการใช้ลิฟต์สำหรับโดยสารก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ ในปี 1880 ก็ได้มีการประดิษฐ์ลิฟต์ที่ใช้ไฟฟ้าในการทำงานขึ้น ซึ่งทำให้การติดตั้งลิฟต์ทำได้สะดวกขึ้นกว่าเดิม รวมถึงมีการออกแบบลิฟต์ให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบต่างกันด้วย
ในปัจจุบันลิฟต์ที่สูงที่สุดในโลกก็คือลิฟต์ที่ติดตั้งในอาคาร Burj Khalifa ในนครดูไบ มีความสูงถึง 638 เมตร
เนื้อหาและภาพประกอบจาก สาระเรื่อยเปื่อย
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « ความหมายของ 12 นักษัตร
Comment on this Post