ความเห็น: 3
การถ่ายทอดความรู้คืออำนาจ
อังคาร 22 พ.ค. 2555 ที่ผ่านมาได้เดินทางไปประชุมที่กรุงเทพฯ แบบเช้าไป-เย็นกลับ และที่มักกระทำในการเดินทางคือหาหนังสือไปอ่านในระหว่างการเดินทางและการรอการเดินทาง
เที่ยวนี้ได้หนังสือ "พูดดีไม่ต้องมีเพาเวอร์พอยต์" มาอ่านซึ่งป็น 1 ใน 2 เล่มที่ซื้อ
เหตุที่สนใจหนังสือเล่มนี้เพราะรู้ว่า สตีฟ จ็อบส์ ไม่ชอบการนำเสนอด้วย power point โดยให้เหตุผลว่า คนที่รู้ลึกรู้จริงต้องสามารถนำเสนอความคิดและข้อมูลแบบไม่ต้องใช้ตัวช่วยเช่น power point ซึ่งก็ไม่รู้ว่า Christopher Witt คนที่เขียนหนังสือนี้จะนำเอาสิ่งที่สตีฟ จ็อบส์พูดไว้มาตั้งชื่อหนังสือเป็นจุดขายหรือเปล่า และเมื่อมีจุดเริ่มต้นผมก็ต้องหยิบมาพลิกดูและตัดสินใจซื้อในเวลาที่รวดเร็ว
หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับการพูดของผู้นำ และบอกว่า "ความรู้ไม่ได้มีอำนาจอย่างที่เราเคยรับรู้" แต่ "การถ่ายทอดความรู้นี้แหล่ะคืออำนาจ" ประเด็นนี้ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาว่านาจะจริง หากรวมเอาการใช้ความรู้ไปประยุกต์ในการใช้งานเข้าไปด้วย
Knowledge is Power เป็นคำพูดที่มีมานานมากกว่า 400 ปี แต่ปัจจุบันถ้าจะพูดให้ถูกต้องอาจจะต้องพูดว่า Sharing Knowledge is Power มากกว่า
หนังสือบางเล่มได้กล่าวไว้ว่า ในอดีตกาลนั้น มีพระพุทธเจ้าอยู่หลายพระองค์มากมายนัก แต่ทรงเป็นปัจเจกพระพุทธเจ้า คือไม่ได้เผยแพร่สั่งสอนหลักธรรมออกไป ซึ่งแตกต่างจาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเผยแพร่หลักธรรมคำสอนออกไป คำสอนของพระองค์ท่านจึงทรงมีอำนาจอยู่ในการดำรงชีวิตของมนุษย์จำนวนมาก ซึ่งอาจยืนยันได้ว่า"การถ่ายทอดความรู้นี้แหล่ะคืออำนาจ"
อำนาจอยู่ในตัวครูผู้ซึ่งถ่ายทอดความรู้ออกไป ยิ่งถ่ายทอดออกไปในวงกว้างยิ่งมีชื่อเสียงมาก เช่น ออกรายการทีวีเป็นต้น ตัวอย่างเช่น "ครูแม่" ซึ่งอาจมีครูที่เก่งกว่านี้อีก แต่ไม่มีโอกาสได้ถ่ายทอดความรู้ออกไปในวงกว้าง ดังนั้นก็จะไม่มีอำนาจมากเท่า "ครูแม่" หรือครูอื่น ๆ ที่เป็นติวเตอร์
"ข้อเท็จจริงหรือความรู้" ไม่สามารถพูดแทนตัวมันได้ คนต่างหากที่เป็นผู้รวบรวม นำมาประเมิน ทำความเข้าใจ แล้วพูดแทนมัน ทักษะด้านการสื่อสารอาจไม่ได้เขียนอยู่ใน Job Description ทั้งๆที่ควรจะระบุไว้ด้วย เป็นเป็น competency ที่สำคัญมาก
"คุณค่าของเราที่มีต่อองค์กรไม่ได้อยู่ที่ความรู้ที่เรามีอยู่ แต่อยู่ที่ความสามารถในการนำเสนอสิ่งที่เรารู้ให้แก่ผู้คนจากหลากหลายสาขาให้สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามได้ หรือสามารถปฏิบัติงานได้เป็นผลสำเร็จ"
ก็เป็นประเด็นที่ต้องบันทึกไว้ก่อนที่จะลืมครับ
ผม..เอง
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « ลดขยะ: มาคิดนอกกรอบกันบ้างมั๊ย
- ใหม่กว่า » ขอแค่เรา...คุยกัน บ้านเธอบ้านฉัน...
ความเห็น
![]() |
ขออภัยครับ ปีค.ศ.คลาดเคลื่อนนิดหน่อย 2008 แก้เป็น 2005 ครับ
sub Thai ดูได้ที่นี่ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=7yciGpzhcVk
ใกล้เข้าสู่ความเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว
ขอเชิญชวนทุกท่านมาฝึกภาษาอังกฤษผ่านยูทุบกันครับ
เริ่มที่สุนทรพจน์ของ Steve Jobs นี้
ขอบคุณครับ ท่าน Pisan
คำว่าท่าน ที่ผมใช้นั้นเพราะการแสดงความสนิทสนมครับ ถ้าผมใช้คำว่าท่านสุธรรม ท่านพิษณุเมื่อใด ก็แสดงว่าสนิทใจกับท่านเหล่านั้นมากครับ
Steve Jobs มีนิสัยที่ดีและที่แย่มากๆ อยู่หลายเรื่องด้วยกันครับ
25 พฤษภาคม 2555 17:08
#77427
ขอแนะนำ Youtube ที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจเกี่ยวกับ Steve Jobs นะครับอาจารย์ชาคริต
http://www.youtube.com/watch?v=gO6cFMRqXqU
ว่ากันว่า เป็นสุนทรพจน์ที่ดีที่สุดของสตีฟ จ็อบส์ ที่กล่าวแก่บัณฑิตจบใหม่ของมหาวิทยาลัย Stanford
ในวันรับปริญญาปี 2008
"ตอนผมอายุบสิบเจ็ด ผมอ่านคำคมประโยคหนึ่งที่ว่าไว้ในทำนองนี้
'ถ้าคุณใช้ชีวิตในแต่ละวันเหมือนกับเป็นวันสุดท้ายของคุณแล้วละก็ วันหนึ่งคุณจะพบว่าสิ่งที่ทำไปนั้นถูกต้อง'
ผมรู้สึกประทับใจกับประโยคนี้มาก
ตั้งแต่นั้นมา
กว่าสามสิบปีผมมองหน้าตัวเองในกระจกทุกวัน แล้วถามตัวเองว่า
'ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของผม ผมอยากจะทำสิ่งที่ผมกำลังจะทำวันนี้หรือเปล่า?'
แล้วเมื่อไหร่ที่คำตอบคือ
'ไม่' ติดกันหลายวัน
ผมจะรู้ตัวว่าผมจะต้องเปลี่ยนอะไรบางอย่างแล้ว"
Steve Jobs