comment: 1
การพัฒนาทรัพยากรบุคคล: ปัจจัยแรกของความสำเร็จขององค์กร
ผมทำงานที่ม.อ.มาเกือบ 40 ปีแล้ว จากประสบการณ์ทั้งในภาคธุรกิจ (ส่วนตัว) และภาครัฐ พบว่าทรัพยากรบุคคลมีความสำคัญอันดับหนึ่งต่อความเจริญก้าวหน้าขององค์กร
ปัจจุบันผมเชื่อว่าเราการศึกษาไทยกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตที่นักเรียน/นักศึกษาสูญเสียความคิดสร้างสรรค์ จากสังคมที่หลงในทิศทางและมีความรู้ประเภทสอบผ่าน แต่ยังขาดการประยุกต์ใช้ที่เหมาะสม
ข้อมูลที่ได้รับทุกวันจาก fact ที่พบเจอมาจริง และทางอ้อมจากการบอกเล่า ทำให้รู้สึกว่า ทัศนคติหรือความเชื่อที่เรามีนั้นเป็นตัวขับเคลื่อนความประพฤติหรือนิสัยการกระของตัวเราเอง และทัศนคติเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่เฉพาะตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ
Me, Me และ Me เท่านั้น
สิ่งแรกที่จะต้องเปลี่ยนคือทัศนคติ ที่จะต้องเปลี่ยนให้ดูออกไปนอกตัวเราเองมากขึ้น มองออกไปในวงกว้างของสังคมและประเทศที่จะได้รับประโยชน์ เหมือนกับการจะเปลี่ยนไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของม.อ.เราเอง ที่ต้องไม่ติดยึดเพียงแต่ว่า เงินเดือนจะได้เท่าใด หรือระบบประเมินจะมีความยุติธรรมหรือไม่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมหรือไม่มั่นใจในประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเราเอง ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรหรือไม่
ระบบราชการนั้นอยู่ใน Comfort Zone จนคุ้นชินไปแล้ว "งานสบาย เงินน้อย แต่มั่นคง" คือคำพูดที่ประชาชนคนไทยพูดกันจนเป็นค่านิยมไปแล้ว
ในวันนี้ระบบราชการจ่ายเงินเดือนไม่น้อยกว่าภาคเอกชนแล้ว (ระบบพนักงาน) แต่งานยังสบายและมั่นคงน้อยลง (มีสัญญาจ้างแทนจ้างตลอดชีวิต)
การที่อยู่ในท่ามกลางการแข่งขันของนานาประเทศ ทำให้เราอยู่ในกระแสทุนนิยมที่ต้องขับเคลื่อนด้วยความรู้ความสามารถมากขึ้น การใช้ชีวิตแบบธรรมดาเหมือนก่อนทำให้ตกอยู่ในภาวะอันตราย ปัจจุบันมีคลิปจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาเตือนให้ระวังตัวเองให้มากในการถอนเงิน เดินทาง แต่งตัว ราวกับจะบอกว่า ตำรวจไม่สามารถปกป้องประชาชนได้อีกแล้ว เพราะอาชกรมีมากขึ้น ความรุนแรงมากขึ้น และเป็นหน้าที่ประชาชนต้องดูแลตนเอง (ฮา)
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เกิดเพราะประชาคมไทยสร้างกันมา ด้วยการใส่ทัศนคติความฟุ้งเฟ้อ ความหรูหรา ความรักสบาย เพิ่มจากการสร้างฐานะที่มั่นคงจากการทำงาน เราใช้เงินในสิ่งเหล่านี้มากขึ้น (โปรดสำรวจตนเอง) การหาเงินเพื่อปัจจัย 4 อาหาร ที่อยู่ เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ไม่เพียงพอ เราต้องสวย/หล่อ มีรถยนต์ใช้ เสื้อผ้าต้องมีแบรนด์ และขวนขวายหาต่อไปโดยไม่ได้คำนึงถึงรายได้ที่สามารถหาได้
มิติที่ผมคิดอยู่ก็คงเป็นประเด็นที่ว่า "หากเรายังไม่ตระหนักในการสร้างคุณค่าหรือผลงานที่ทำอยู่ให้มากขึ้น เราก็อาจจะเจอกับสังคมที่ไม่พึงปรารถนาในอนาคตอันใกล้นี้"
ผม..เอง (แมวคิดถึงแม่)
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « Core vs. Context
- ใหม่กว่า » Digital Economy (1)
24 กุมภาพันธ์ 2563 15:11
#111439
ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์ดีๆ นะค่ะ >>> slotxo