ความเห็น: 2
ทำไงให้เข้าตากรรมการ --> ที่มาของ RIMS...รางวัลโครงการพัฒนนางาน ปี 54 (ตอนที่ 3-สุดท้าย)
ผมเขียนบันทึก ชุด รางวัลโครงการพัฒนางาน ปี 54 มา แล้ว 2 ตอน ตอนแรก เป็นการกล่าวถึงที่มาของการทำงานชิ้นนี้ขึ้นมา รวมถึงเหตุการณ์และความรู้สึกในวันประกวดผลงาน ส่วน ตอนที่สอง ได้กล่าวถึงรายละเอียดของผลงาน ตั้งแต่ที่มา วัตถุประสงค์ การทำงานตามหลักการ PDCA ผลการพัฒนางาน และข้อคิดที่ได้รับ ซึ่งเป็นตอนที่ยาวและใช้เวลามากในการอ่าน (จนน่าเบื่อ) ดังนั้นในตอนสุดท้ายนี้ผมจึงเป็นการสรุปเนื้อหาสั้นๆ ที่หลายๆ คน ต้องการทราบ ว่า "ทำยังไงให้ (คิดว่าจะ) เข้าตากรรมการ" ซึ่งเขียนมาจากการเข้าใจไปเองของใยมะพร้าวน้องใยไหมเท่านั้น ซึ่งผมสรุปได้ดังนี้
1. งานพัฒนาควรเป็นเฉพาะของเราเอง ไม่เหมือนใคร - ไม่ใช่ว่าจะลอกคนอื่นมาทำไม่ได้ แต่หมายความว่าดัดแปลงของเขามาได้ แต่ต้องเหมาะกับเราและตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด ซึ่งทางที่ดีที่สุด คือ ต้องคิดเองทำเองครับ จะมีโอกาสได้คะแนนมากขึ้น
2. ควรเป็นงานที่มีจากปัญหาในงานของเราจริงๆ ไม่ใช่ทำเพราะมีใครบังคับให้ทำ หรืออยากประกวด - การให้เหตุผลในการสร้างงานจะอ่อนเกินไป เวลานำเสนอจะไม่มีน้ำหนักพอ สรุปง่ายๆ ว่า "เริ่มต้นทำงานที่ออกมาจากใจและความต้องการจริงๆ" (มี Need ที่ถูกต้องและชัดเจน)
3. แยกงานพัฒนาและงานประจำให้ออก - ผมเสียดายผลงานหลายชิ้นในวันประกวด ที่ไม่ได้รางวัล ทั้งๆ ที่ผมเชียร์เสียออกนอกหน้าว่าน่าจะได้รางวัลไปบ้าง..สาเหตุ (ที่ผมคิดแทนกรรมการ) เพราะว่างานพัฒนาที่หลายฝ่ายทำ เช่น ฝ่ายกิจการนักศึกษา ฝ่ายกจ. ฝ่ายสารบรรณ ทำเป็นโปรแกรม หรือ ฐานข้อมูล หรือ เวบไซต์ เป็นงานพัฒนาของงานนั้นจริง แต่ผู้ช่วยทำเป็นนักโปรแกรมเมอร์ หรือ Administrator ซึ่งงานเหล่านี้ คืองานประจำของพวกเค้าอยู่แล้ว น้ำหนักคะแนนจึงน้อยไปนิดนึง ดังนั้นจึงน่าเสียดายมากที่ งานดีๆ หลายงานไม่ได้รางวัล ทั้งที่เป็นงานที่ดีมากๆๆๆๆ ครับ
4. การทำงานตามหลักการ PDCA หรือ LEAN - คงปฏิเสธไม่ได้ว่า 2 หลักการนี้เป็นพื้นฐานในการทำงาน และ การพัฒนางานมาช้านาน ดังนั้นหากใครทำงานโดยใช้หลักการ ทั้ง 2 อย่างข้างต้น ย่อมได้คะแนนจากกรรมการเข้าไปอีก ในโทษฐานที่ทำงานเป็นระบบ ไม่ใช่คิดจะทำก็ทำ ไม่ได้ยึดหลักการใดๆ ในชีวิต เมื่อไม่มีแผนการทำงาน ก็ยากที่จะมีแผนการได้รางวัล
5. การเขียนขั้นตอนรายละเอียดการทำงานให้ครบถ้วน - หากใครได้อ่าน เอกสารประกอบการนำเสนอผลงาน ของผม ก็จะเห็นว่ามีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ซึ่งพูดไม่หมดในเวลา 10 นาที แน่นอน แต่กรรมการจะได้อ่านก่อนมาฟังการนำเสนออยู่แล้ว ดังนั้นก็ควรเขียนอธิบายที่มาที่ไป ให้ครบถ้วน รวมถึงแทรกหลักการ PDCA และ LEAN ลงไปด้วยบ้างเล็กน้อยตามข้อที่ 4 ครับ
6. การนำเสนอที่ดี - ข้อนี้เป็นข้อที่ทำได้ไม่ยาก เพราะทุกท่านที่นำเสนอมีเทคนิคแพรวพราว มีทักษะการพูดที่หาตัวจับอย่างทั้งนั้น ดังนั้นข้อนี้จึงเป็นข้อที่ผมหนักใจมาก จนต้องนำเสนอผลงานรูปแบบใหม่ที่แหกกฏไปบ้าง (ดูย้อนหลังได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=alq24IZDg4c) ซึ่งก็ได้ผลทีเดียว เพราะทุกคนอึ้งกิมกี่ กันหมด....
7. สุดท้าย ต้องมีความกระหายในความสำเร็จ แต่ประมาณตัวเองไม่ให้สูงเกินไป และเตรียมใจยอมรับความพ่ายแพ้ - ผมเองไม่ใช่คนเก่งอะไรเลย งานก็ทำออกมาง่ายๆ ตามปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และรู้ว่ายังมีคนใน มอ. ที่เก่งๆ อีกมาก แต่ผมมีนิสัยอยู่อย่างหนึ่ง คือ เมื่อทำอะไรแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ดังนั้นผมจึงค้นคว้าข้อมูลค่อนข้างมาก ทั้งข้อมูลงานที่ตัวเองพัฒนา ข้อมูลโครงการที่จะนำเสนอ รายชื่อกรรมการ (ว่าเป้นใครมาจากไหน เชี่ยวชาญสาขาใด) ผลงานที่ได้รางวัลโครงการนี้ย้อนหลัง google รวมทั้งใน Shared.psu ซึ่งมีคนเคยพูดเอาไว้แล้วในแนวทางการนำเสนอโครงการนี้เมื่อปีที่ผ่านๆ มา
ผมนึกออกและเขียนได้ 7 ข้อเท่านั้น ซึ่งจริงๆ น่าจะมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากที่ส่งผลให้งานออกมาดี ซึ่งทุกงานที่นำเสนอเมื่อวันที่ 31 ส.ค.54 นั้นล้วนดีจริงๆผมขอยืนยัน และ ผมเห็นด้วยที่ท่านผู้ช่วยอธิการบดีได้กล่าวในวันปิดโครงการว่า "ควรให้หัวหน้างานเข้ามาดู และมีพื้นที่ให้งานเหล่านี้ที่เป็นประโยชน์ได้รวมกันอยู่ ได้มีกลุ่ม KM เพื่อให้แต่ละคณะได้นำข้อดีของอีกคณะไปปรับใช้ ไม่ใช่ให้หดหายไปอีกปีหนึ่ง โดยไม่มีใครเอาไปต่อยอดต่อไป"
ซึ่งแม้ว่าปีนี้เป็นปีที่คณะวทท. เข้าร่วมโครงการเป็นครั้งแรก โดยการนำของหัวหน้างานประกันคุณภาพ พี่บุญเลิศ จันทร์ไสย์ ซึ่งเราก็มีผลงานส่งเข้าประกวด รวมแล้ว 3 ชิ้นงาน ได้แก่งานของคุณประทีป เอื้อนมงคล Hotman
และงานของคุณสมคิด ศรีสุวรรณ ซึ่งทั้ง 3 ท่านที่กล่าวถึงนี้เป็นแนวหน้างานพัฒนาของคณะเราทีเดียว
สุดท้ายขอขอบคุณคุณ คนธรรมดา ที่ติดตามอ่านและให้กำลังใจและแสดงความยินดี เอาไว้ใน ตอนที่ 2 เอาไว้ที่นี้ด้วยครับ
บันทึกอื่นๆ
- เก่ากว่า « ที่มาของ RIMS...รางวัลโครงการพัฒ...
- ใหม่กว่า » ประวัติศาสตร์ 10 ปี ศูนย์เครื่อง...
ความเห็น
ขอบคุณครับ คุณคนธรรมดา ที่อุตส่าห์ออกปากชม (อีกแล้ว) และขอบคุณที่อดทนรอดูตั้งแต่เช้าจนจบถึงตอนเย็นครับ
เรื่องการนำไปเผยแพร่ สามารถทำได้เลยครับ เพราะตั้งใจให้คนอื่นได้ดูอยู่แล้ว หากจะโหลดเก็บไว้ก็ทำได้ครับ
ส่วนความตั้งใจในการทำงานก็เกิดจาก ด้วยความเป็นคนอยู่ไม่นิ่งอยู่แล้ว และชอบทำอะไรแปลกๆ มั้งครับ
เลยทำให้อยากทำอะไรให้แหวกแนวมากขึ้นกว่าการนำเสนองานที่เคยทำมาหลายสิบครั้งในชีวิต
(จนคนนำเสนอเองยังเบื่อครับ)
แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ว่ามีผู้รับไม่ได้ในแนวการนำเสนอผลงานรูปแบบนี้ ในระดับมหาวิทยาลัย
ซึ่งผมก็เผื่อใจไว้แล้ว ไม่ว่าจะมีผลการตอบรับทางบวกและทางลบ
สุดท้าย ผมเองก็อยากจะบอกว่า ผมเองมีความยินดีที่ได้มาอยู่ คณะวทท. มอ. ปัตตานี (น่าจะยิ่งกว่าที่คณะ วทท. มีบุคลากรเช่นผมครับ)
15 กันยายน 2554 17:09
#68703
ผมใช้เวลาดูใน youtube นานมาก คือเปิดตั้งแต่เช้า แต่มาดูจบในตอนเย็น (ฮา)
ผมว่างานนี้มีคุณค่าแก่การได้รับรางวัลอย่างยิ่ง ที่ผมเห็นจุดเด่นมากคือ
ทัศนคติในการทำงานครับ ซึ่งเป็นทัศนคติในการทำงานที่เยี่ยมยอดมาก
หากจะบอกให้ใครมี positive thinking ก็ต้องให้มาดู youtube นี้แหล่ะครับ
มีทั้งความรักและความมุ่งมั่นในการทำงาน
ผมคงต้องขออนุญาตนำ youtube นี้ไปเผยแผ่ จะได้หรือไม่ครับ
เทคนิคการนำเสนอก็ไม่ธรรมดานะครับ เราดูออกถึงความตั้งใจจริงในการนำเสนองานชิ้นนี้ครับ
ตัองขอแสดงความยินดีที่คณะ วทท.มีบุคลากรเช่นนีครับ